ดีเอชเอ DHA และ การทำงานของ สมอง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ดีเอชเอและการทำงานของสมอง
น้ำมันปลา ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็น ประเภทโอเมก้า 3 อยู่ในปริมาณสูง
ซึ่งในกลุ่มของโอเมก้า 3 นั้น มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 2 ชนิดที่สำคัญได้แก่..
1. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA
2. กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid) หรือ EPA
ดีเอชเอ DHA และ การทำงานของ สมอง
แหล่งของ DHA และ EPA
- ในธรรมชาติพบมากในปลาทะเล และสาหร่าย
- โดย EPA จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
- โรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดระดับของไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด (อ้างอิงที่ 1)
- ขณะที่ DHA มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมอง
- ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยแสดงอย่างชัดเจนว่า
สาร DHA ในน้ำมันปลามีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง
- โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตั้งแต่แรกเกิดที่ต้องการ DHA ในปริมาณมากและเพียงพอ
- เพื่อใช้ในการพัฒนาสมองได้อย่างเต็มที่ในวัยผู้ใหญ่ (อ้างอิงที่ 2)
- DHA จะผ่านเข้าไปในสมองและเสริมสร้างการเจริญเติบโต
- ของปลายประสาทที่เรียกว่า เดนไดรต์ (dendrite)
- ซึ่งจะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน
- ทำให้เกิดการเรียนรู้และการจดจำ (อ้างอิงที่ 3)
- นอกจากนี้ DHA ยังมีความสำคัญต่อระบบประสาทตา
- และระบบการทำงานของสายตาอีกด้วย (อ้างอิงที่ 2)
DHA ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความจำเสื่อม
- ชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มโรคความจำเสื่อม
- โดยจะมีการเสื่อมของเซลล์สมองในส่วนที่ควบคุมการเรียนรู้และความจำ
- โรคนี้ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- และอัตราความเสี่ยงของโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น (อ้างอิงที่ 4)
- โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคความผิดปกติของหลอดเลือด ได้แก่
- โรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง
- ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่อาจเกิดเซลล์สมองฝ่อเร็วกว่าคนทั่วไป (อ้างอิงที่ 5)
โรคอัลไซเมอร์ จะส่งผลให้เกิดความจำเสื่อม
- การทำงานประสานของร่างกายลดลง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง หลงลืม สับสน
- และไม่สามารถปฏิบัติงานที่เคยทำปกติได้ การมีเหตุผลจะลดลง
- ที่สำคัญคือเมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้(อ้างอิงที่ 4)
- ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้ทั่วโลกประมาณ 33.9 ล้านคน
- และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 เท่าในอีก 40 ปีข้างหน้า
- สำหรับในประเทศไทยซึ่งมีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทั้งหมดประมาณ 8.3 ล้านคน
- คาดว่าจะมีผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 8.3 แสนคน
- และคาดการณ์ได้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะเป็นปัญหาทางสาธรณสุขที่รุนแรงขึ้นในอนาคต
- ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้เป็นโรคเท่านั้น
- ยังส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวอีกด้วย
- ดังนั้น โรคอัลไซเมอร์จึงเป็นโรคที่น่ากังวลในปัจจุบันและอนาคตเป็นอย่างมาก (อ้างอิงที่ 6)
- หนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์คือ การสะสมของ อะไมลอยด์ เบต้า (Amyloid Beta)
- จนกลายเป็น อะไมลอยด์ พล๊าค (Amyloid Plaques)
- ซึ่งมีความเป็นพิษต่อเซลล์ประสาท โดยจะทำลายสมดุลไอออน
- ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายโครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ที่มีไขมันและโปรตีนเป็นส่วนประกอบ
- และทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ Microglia ซึ่งเมื่อ Microglia
- ถูกกระตุ้นจะทำให้เกิดการหลั่งสารที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบที่เป็นพิษต่อ
- ระบบประสาท ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์สมองถูกทำลาย (อ้างอิงที่ 4,7)
มีงานวิจัยสนับสนุนว่า
- DHA ในน้ำมันปลาช่วยเพิ่มสารที่มีชื่อว่า LR11 โปรตีน
- ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดอะไมลอยด์ เบต้า (Amyloid Beta)
- ที่จะรวมตัวเป็น อะไมลอยด์ พล๊าค (Amyloid Plaques)
- หนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ (อ้างอิงที่ 8)
- อีกงานวิจัยที่ทำการทดลองกับผู้สูงอายุ พบว่า การรับประทาน DHA วันละ 900 มก.
- เป็นเวลา 6 เดือน สามารถเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้
- และการจดจำได้ดี (อ้างอิงที่ 9) นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเพิ่มเติมสนับสนุนว่า DHA
- สามารถชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมประเภทอัลไซเมอร์ได้
- โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ และมีความปลอดภัยสูง (อ้างอิงที่ 10)
- รวมถึงงานวิจัยระบุว่าการที่ร่างกายได้รับ DHA
- ที่ไม่เพียงพอจะมีแนวโน้มทำให้มีโอกาสเกิดอนุมูลอิสระ
- เกิดปฏิกริยา lipid peroxidation ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ (อ้างอิงที่ 11)
- นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยในประเทศออสเตรเลีย โดยศึกษากับเด็ก อายุ 7-12 ปี
- ที่มีอาการสมาธิสั้นพบว่า การเพิ่มขึ้นของดีเอชเอในเม็ดเลือดแดง
- ส่งผลให้เด็กมีการอ่านคำที่ดีขึ้น การสะกดคำที่ดีขึ้น ความสนใจดีขึ้น
- พฤติกรรมที่ผิดปกติ ความกระสับกระส่าย และอาการสมาธิสั้นโดยรวมลดลง (อ้างอิงที่ 12)
- และมีงานวิจัยในประเทศโอมาน ระบุว่าเด็ก ที่เป็นโรคออทิซึม หรือ ผู้ป่วยออทิสติก
- จะมีระดับของ DHA ในเม็ดเลือดแดงต่ำเช่นเดียวกัน (อ้างอิงที่ 13)
- ดังนั้นการรับประทานอาหาร หรือ อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ
- กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก หรือ DHA เป็นประจำ
- จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการในเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น
- และผู้ป่วยออทิสติก นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
- และมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง เพิ่มการเรียนรู้ และการจดจำได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร น้ำมันปลา 1000 มก. ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 1,000 มก.
ประกอบด้วย
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 100 มก.
- กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 500 มก.
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
รหัสสินค้า 40117
ปริมาณสุทธิ : 30 แคปซูล
น้ำหนักรวม : 75 กรัม
จำนวน : 1 กระปุก
ราคา 620 บาท
———————————
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร น้ำมันปลา 1000 มก. ชนิดแคปซูล กิฟฟารีน
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 1,000 มก.
ประกอบด้วย
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 100 มก.
- กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 500 มก.
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
รหัสสินค้า 40118
ปริมาณสุทธิ : 60 แคปซูล
น้ำหนักรวม : 110 กรัม
จำนวน : 1 กระปุก
ราคา 1,060 บาท
ทักมาค่ะส่งในราคาสมาชิก..
สามารถนำรหัสสมาชิก 37087100 ไปซื้อได้ที่ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Fanpage : Giffarine Easy
Email : thatsaya1968@gmail.com
โทร. 064-1860236 / Line id : @easygiff
สมัครสมาชิกกิฟฟารีนป้อนข้อมูลที่นี่ค่ะ